SLE ภาวะภูมิคุ้มทำงานผิดปกติ กับ ปัญหาผมร่วง
SLE หรือ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง คนไทยเรารู้จักกันดีในชื่อ โรคพุ่มพวง เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ปกติคนเราจะมีภูมิคุ้มกันไว้เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค แบททีเรีย ไวรัสต่างๆ ที่แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย แต่ด้วยปัจจัยบางอย่าง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเกิดการสับสนเข้าใจว่า เนื้อเยื่อในร่างกายเป็นสิ่งแปลกปลอมแล้วก็ส่งปฎิกิริยาเกิดการอักเสบเพื่อที่จะทำลาย โดยการส่งเม็ดเลือดขาวพร้อมทั้งผลิตตัวภูมิชนิดหลั่งออกมา เพื่อไปทำลายตามส่วนต่างๆของร่างกาย
SLE หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง นี้ 80% ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเป็นผู้หญิงที่มาอายุ อู่ระหว่าง 20 – 45 ปี ซึ่งไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า สาเหตุของโรคคืออะไร แต่สันนิฐานว่าน่าจะมาจาก พันธุกรรม ฮอร์โมน โรคบางโรคที่แอบแฝงอยู่ในร่างกายเป็นเวลา และฮอร์โมน
SLE หรือภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง สามารถเกิดขึ้นในได้ในทุกระบบในร่างกาย และความรุนแรงของโรคก็ขึ้นอยู่กับว่า เป็นในส่วนใด ระบบใดของร่างกาย เช่น ระบบประสาท ระบบหัวใจ ระบบเลือด กล้ามเนื้อ ระบบไต ระบบทางเดินอาหาร และระบบผิวหนัง ยกตัวอย่างอาการ เช่น
ระบบประสาท ทำให้อ่อนเพลีย
ระบบเลือด เส้นเลือดเกิดการอักเสบทำให้ซีด มือเท้าเย็นเมื่อ อากาศเปลี่ยนแปลง
ระบบไต ทำให้โปรตีนรั่ว ทำให้ร่างกายได้รับโปรคีนไม่เพียงพอ ระบบเลือดขาดสมดุล
ระบบกล้ามเนื้อและข้อ เกิดการอักเสบ ทำให้ปวด บวม
ระบบหัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เกิดการชัก
ระบบผิวหนัง ทำให้ อักเสบเป็นผื่นแดง แพ้ง่าย และผมร่วง
และเรื่องที่เราจะพูดก็คือ อาการของ ผมร่วง ในผู้ป่วยโรค SLE กับภาวะภูมิคุ้มกันทำลายระบบผิวหนังในบทความนี้กันค่ะ
อย่างที่เราทราบกันค่ะว่าอวัยวะในร่างกายในแต่ละส่วนมีความสัมพันธ์กัน หากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดความเสียหาย หรือทำงานผิดปกติจะส่งผลกระทบต่ออวัยวะในส่วนอื่นไปด้วย และด้วยการดำเนินของโรค SLE ที่สามารถกำเริบเกิดขึ้นในทุกที่ ทุกส่วนในร่างกาย เมื่อ SLE เกิดขึ้นกับระบบผิวหนัง แน่นอนว่า “อาการผมร่วง” ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นสูง
SLE เมื่อเกิดขึ้นในระบบผิวหนัง แม้โรคจะสงบแต่หากผู้ป่วยถูกแสงแดดสัมผัส จะทำให้เกิดอาการผิวหนังเป็นผื่นแพ้ แดง อักเสบขึ้นมาโดยง่าย ซึ่งหนังศีรษะก็เป็นผิวหนังเช่นกัน และหนังศีรษะก็เปรียบเสมือนเกราะป้องกันสิ่งแปลกปลอม สิ่งสกปรกที่จะเข้าไปทำร้ายให้แก่รากผม หากหนังศีรษะเกิดการอ่อนแอ เป็นแผล อักเสบ หนังศีรษะมัน รากผมจะได้รับผลกระทบไปด้วย
และสาเหตุที่ ผมร่วง นั้นไม่ได้เกิดจากสาเหตุนี้เพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เซลล์ที่เกิดการอักเสบมาล้อมบริเวณรากผม ทำให้ภูมิคุ้มกันหรือตัว Antibody system เกิดความสับสนเข้าใจว่าเซลล์รากผมคือสิ่งแปลกแล้วหลั่งสารออกมาทำลาย ทำให้รากผมเสียหายและเส้นผมหลุดร่วงได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ระบบเลือด และระบบไต หากมีโปรตีนรั่วหรือเลือดขาดความสมดุล ก็จะเป็นปัญหาในเรื่องการจัดสรรสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นสู่รากผม ซึ่งในกรณีนี้ จะทำให้รากผมขาดความแข็งแรง ไม่มีกำลังในการสร้างเส้นผม (เคราติน) หรือโคนผมอ่อนแอ เส้นผมที่งอกออกมาใหม่จึงมีโคนผมที่เล็กลีบ อ่อนแอ และหลุดร่วงได้ง่าย
ปัญหาผมร่วง ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับช่วงเวลาที่โรคกำเริบ และเมื่อโรคสงบลงจะพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีผมแหว่งไป และเมื่อเจอแสงแดง หรือสัมผสแสงแดด ในบริเวณที่แหว่งนั้นก็จะเกิดอาการแสบแดง ซึ่งวิธีที่จะหยุด ปัญหาผมร่วง นั้นส่วนใหญ่จะเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการ การบำรุง เร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม ตามลำดับ ซึ่งผลที่ได้มากน้อยนั้น จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพและลักษณะการดำเนินโรคของผู้ป่วยแต่ละคนค่ะ
วิธีดูแลการปฎิบัติตนของผู้ป่วย SLE นอกจากเรื่องการ ทานยาตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดแล้ว ด้านจิตใจก็สำคัญนะคะการผ่อนคลายไม่ทำให้ตัวเองเครียดเกินไปจะช่วยการกำเริบของโรคสั้นลงและสงบได้เร็วอีกด้วยค่ะ และนอกจากนั้นการเลือกรับประทานอาหาร ก็ควรเป็นอาหารที่มั่นใจว่าไม่มีสารเคมีหรือสารพิษเจือปนเพราะ สิ่งเหล่านี้ จะเป็นสาเหตุในการเร่งให้โรคกำเริบและทำให้อาการรุนแรงได้ในอนาคตค่ะ
สำหรับผู้ป่วย SLE ที่เผชิญกับเรื่อง ปัญหาผมร่วง อยู่นั้น การทานยากดภูมิหรือสเตียรอยด์ ก็เป็นสาเหตุหนึงที่ทำให้ ผมร่วง หักเปราะและบางลงได้ ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ แต่หากผู้ป่วยดูแลรักษาร่างกายจนอาการดีขึ้น ปัญหาผมร่วง ผมบาง ก็จะลดน้อยลงตามลำดับ และผู้ป่วยสามารถบำรุงรักษา และกระตุ้นเร่งให้รากผมสร้างผมเส้นใหม่ให้เร็วขึ้นได้ โดยการบำรุงรากผมให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ อาจมาจากการเติมวิตามินเข้าไปที่หนังศีรษะโดยตรง ด้วยเซรั่มที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อรากผมค่ะ เมืื่อรากผมได้รับการบำรุงที่เพียงพอก้จะสามารถซ่อมแซมเซลตัวเองให้ฟื้นตัวจากความเสียหายได้เร็วขึ้น และเมื่อรากผมมีความแข็งแรงมากพอ จะช่วยให้รากผมมีกำลังในการสร้างผมเส้นใหม่ในอัตราที่เร็วขึ้น เส้นผมเส้นใหม่จะมีความสมบรูณ์ ไม่หลุดร่วงได้ง่าย
ทั้งนี้ วิธีดูแลรักษาที่ผู้ป่วยจะเลือกใช้ควบคู่กับการรักษาของแพทย์นั้น ควรมีการปรึกษาแพทย์ถึงระยะเวลาที่เหมาะสมก่อนและในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรากนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ หรือหลีกเลี่ยงสารเคมีให้มากที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมีจะช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ได้อย่างปลอดภัยค่ะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบและเพื่อความมั่นใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารเคมี ผู้ป่วยสามารถสังเกตุและตรวจสอบได้จากคำว่า Organic100% ซึ่งจะอยู่ในส่วนของรายละเอียดหรือฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นๆค่ะ
นาโนเวชเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหา ผมร่วง ผมบาง ของผู้ป่วยโรค SLE ได้อย่างตรงจุดค่ะ ด้วยคุณสมบัติ ของนาโนเวชสูตรเอ็กตร้า ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัยจากสารเคมีเจือปน ผู้ป่วยสามารถมั่นใจได้ว่า ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่มีผลข้างเคียงแน่นอนค่ะ
และด้วยคุณสมบัติ นาโนเวช สูตรเอ็กตร้า ที่โมเลกุลของวิตามินขนาดเล็ก จึงสามารถซึ่มเข้าสู่ผิวชั้นในได้เร็ว จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก คราบไขมันที่อุดตันบริเวณหนังศีรษะและรูขุมขนออกไปได้ จากนั้นวิตามินก็จะแทรกซึมสู่ผิวชั้นในเข้าไปบำรุงรากผมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้แน่นอนค่ะ
SLEหรือ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง แม้เป็นโรคที่สามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตแต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาและมีการควบคุมการกำเริบของโรคที่ดี มีความระมัดระวังในการใชีวิต มีการดูแลรักษาสุขภาพ และฎิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ผู้ป่วยก็จะสามารถหายจากอาการและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วค่ะ
ปรึกษาได้ที่นี่